Trade Name (ชื่อ) : AOL 2212
INCI Name (ชื่อสากล) :PRUNUS ARMENIACA KERNEL OIL(and) FRAGARIA ANANASSA SEED OIL (and) SAMBUCUS NIGRA SEED OIL (and) RUBUS IDAEUS SEED OIL
Appearance : น้ำมันสีเหลืองอ่อนถึงใสอมเขียว
Dissolution (การละลาย) : OIL ละลายในน้ำมัน
Direction (วิธีการผสม) : OIL-soluble ผสมในพาร์ทน้ำมัน
Usage% (%การใช้) : 1-100%
Country (ประเทศผู้ผลิต) : DENMARK
Preservation (การเก็บรักษา) : ที่อุณหภูมิห้อง เก็บในภาชนะปิดสนิท เก็บให้พ้นแสง
Caution (ข้อควรระวัง) : เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท เก็บที่อุณหภูมิห้อง เก็บในที่เย็น ห้ามเก็บในที่โดนแสงแดด และโดนคามร้อนโดยตรง
Description (รายละเอียด) : ผสมผสานน้ำมัน 4ชนิด ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันแอพริคอท น้ำมันสตรอเบอรี่ น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่สีดำ และน้ำมันราสเบอรี่ ซึ่งเป็นชนิดสกัดเย็น
1.1 Prunus armeniaca kernel oil น้ำมันแอปปริคอท มีประโยชน์มากมายต่อผิว เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่สำคัญ โดยประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว: น้ำมันแอพริคอทมีกรดไขมัน เช่น กรดโอเลอิก (Oleic Acid) และกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ที่ช่วยในการเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
- บำรุงและฟื้นฟูผิว: อุดมไปด้วยวิตามิน A และ E ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย และบำรุงผิวให้กระจ่างใส
- ลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอย: ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันแอพริคอท มันช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ซึมซาบง่าย ไม่ทิ้งความมัน: น้ำมันแอพริคอทมีเนื้อบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
- เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย: เนื่องจากเป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อ่อนโยน จึงเหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย และยังช่วยลดการระคายเคือง
- ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว: น้ำมันแอพริคอทช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูแน่นกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- บรรเทาอาการอักเสบของผิว: ด้วยคุณสมบัติในการบรรเทาการอักเสบ จึงสามารถช่วยลดรอยแดง ผื่น และอาการระคายเคืองที่ผิวได้
น้ำมันแอพริคอทจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบำรุงและฟื้นฟูผิวในระยะยาว
1.2 Fragaria ananassa seed oil น้ำมันเมล็ดสตอเบอรี่ เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดสตรอเบอรี่ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ดังนี้:
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: น้ำมันสตรอเบอรี่มีวิตามิน C และ E สูง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ให้ความชุ่มชื้น: น้ำมันสตรอเบอรี่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยเฉพาะกับผิวแห้ง ช่วยให้ผิวนุ่มนวลและเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน
- ช่วยลดการอักเสบของผิว: ด้วยคุณสมบัติในการลดการอักเสบ น้ำมันสตรอเบอรี่สามารถช่วยบรรเทาอาการผิวอักเสบ ผิวแดง หรือผื่นแพ้ต่าง ๆ
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส: วิตามิน C ในน้ำมันสตรอเบอรี่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำและรอยสิว ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
- มีกรดไขมันโอเมก้า: น้ำมันสตรอเบอรี่ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและลดการสูญเสียน้ำ
- ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว: น้ำมันนี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้น
- ซึมซาบเร็ว: น้ำมันสตรอเบอรี่มีเนื้อเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งความมันหรือความเหนียวเหนอะหนะ
น้ำมันสตรอเบอรี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบำรุงผิวให้แข็งแรงและกระจ่างใส ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและความเสียหายจากแสงแดด
1.3 Sambucus nigra seed oil น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่ สกัดจากผลของเอลเดอร์เบอร์รี่สีดำ เป็นแหล่งของสารอาหารที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ดังนี้:
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่มีสารฟลาโวนอยด์และวิตามิน A, B, และ C สูง ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว: น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มและลดความแห้งกร้าน
- เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ผิว: สารประกอบในเอลเดอร์เบอร์รี่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และลดการระคายเคืองจากปัจจัยภายนอก
- ลดการอักเสบของผิว: ด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบ น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่สามารถช่วยบรรเทาอาการผื่นแดงหรือการอักเสบของผิว ลดการระคายเคืองและอาการแพ้
- ช่วยในการซ่อมแซมผิว: วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในเอลเดอร์เบอร์รี่ช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ
- ลดความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: สารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ
- ต่อต้านแบคทีเรีย: เอลเดอร์เบอร์รี่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยลดการเกิดสิวและผิวอักเสบที่เกิดจากเชื้อโรค
น้ำมันเอลเดอร์เบอร์รี่จึงเป็นตัวช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่มีปัญหา ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
1.4 Rubus Idaeus seed oil น้ำมันราสเบอร์รี่ เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดราสเบอร์รี่ มีประโยชน์มากมายต่อผิว เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารสำคัญต่าง ๆ โดยประโยชน์ที่ดีต่อผิวมีดังนี้:
- ปกป้องผิวจากแสงแดด: น้ำมันราสเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณสมบัติในการดูดซับรังสี UV ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด ทำให้เป็นตัวเลือกธรรมชาติสำหรับครีมกันแดด
- ชะลอการเกิดริ้วรอย: ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้น น้ำมันราสเบอร์รี่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว: น้ำมันราสเบอร์รี่มีกรดไขมันจำเป็น เช่น โอเมก้า 3 และ 6 ที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเนียนนุ่มและลดการแห้งกร้าน
- ลดการอักเสบและรอยแดง: น้ำมันราสเบอร์รี่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง รอยแดง และปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น สิวและผิวแพ้ง่าย
- ช่วยในการฟื้นฟูผิว: วิตามิน A และ E ในน้ำมันราสเบอร์รี่ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ ส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: น้ำมันนี้มีคุณสมบัติช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ผิวกระจ่างใสและมีความสมดุล
- ช่วยในการรักษาสิว: ด้วยคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย น้ำมันราสเบอร์รี่สามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากสิวและช่วยให้ผิวกลับมาสมดุล
น้ำมันราสเบอร์รี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบำรุงผิวที่อ่อนโยน ช่วยป้องกันและฟื้นฟูผิวจากปัจจัยภายนอก ทั้งยังเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรง